ก้าวแรกของคนไทยในตลาดจีน

Pam การเข้าชม: 11 2025-10-10 10:19:42 ความคิดเห็น: 0

เกี่ยวกับ TMA Group
TMA Group เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการสรรหาบุคลากรและการให้คำปรึกษาทางธุรกิจในประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะให้บริการครบวงจรแก่ทั้งองค์กรและบุคคล รวมถึงการสรรหาบุคลากร การบริหารจัดการทางการเงิน การจัดการภาษี การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ และบริการอื่นๆ หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนในประเทศไทย ยินดีต้อนรับติดต่อเราตลอดเวลา

ก้าวแรกของคนไทยในตลาดจีน

เปิดโลกการลงทุนและทำธุรกิจในแดนมังกร จีนถือเป็นตลาดที่ใหญ่และเติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยจำนวนประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน และกำลังซื้อที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี การที่ผู้ประกอบการไทยสนใจจะเข้าไปเปิดบริษัทหรือทำธุรกิจในจีน จึงเป็นก้าวสำคัญที่อาจสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจมหาศาล — แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความเข้าใจในระบบ กฎหมาย และวัฒนธรรมธุรกิจของจีนอย่างลึกซึ้ง


Account Services (7).png


1. เข้าใจตลาดจีน: ใหญ่แต่ซับซ้อน

ตลาดจีน ไม่ได้เป็นตลาดเดียว (One Market) แต่เป็นตลาดที่มี ความหลากหลายสูง (Diverse Market)
แต่ละมณฑลมีพฤติกรรมผู้บริโภค กฎหมายท้องถิ่น และช่องทางการค้าแตกต่างกัน เช่น

  • ปักกิ่ง / เซี่ยงไฮ้ / กวางโจว → เมืองใหญ่ เน้นสินค้าระดับพรีเมียม บริการทางเทคโนโลยี

  • เฉิงตู / ฉงชิ่ง / คุนหมิง → ตลาดใหม่ที่กำลังเติบโต เหมาะสำหรับสินค้าไทยราคากลาง–ล่าง

  • ไหโข่ว (Hainan) → เขตการค้าเสรี เน้นธุรกิจท่องเที่ยวและสินค้าปลอดภาษี

เคล็ดลับ: ก่อนเริ่มธุรกิจ ควรเลือก“มณฑลหรือเมืองเป้าหมาย”ให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าของสินค้าไทย


2. รูปแบบการจัดตั้งบริษัทของคนไทยในจีน

คนไทยสามารถเปิดบริษัทในจีนได้อย่างถูกกฎหมาย โดยต้องเลือกประเภทของนิติบุคคลให้เหมาะกับกิจการ ซึ่งหลัก ๆ มี 3 รูปแบบดังนี้:

1. WFOE (Wholly Foreign-Owned Enterprise)

เป็นบริษัทที่ชาวต่างชาติถือหุ้น 100%

  • ข้อดี: ควบคุมกิจการได้เต็มที่ / โอนกำไรกลับประเทศได้

  • ข้อจำกัด: ขั้นตอนขออนุญาตซับซ้อน / ต้องมีทุนจดทะเบียนตามเกณฑ์

2. Joint Venture (JV)

เป็นกิจการร่วมทุนระหว่างชาวต่างชาติและนักลงทุนจีน

  • เหมาะกับธุรกิจที่ต้องใช้เครือข่ายจีน / ต้องการลดอุปสรรคด้านภาษาและระบบท้องถิ่น

  • ต้องแบ่งสิทธิ์การบริหารและผลประโยชน์ร่วมกับฝ่ายจีน

3. Representative Office (RO)

เป็นสำนักงานตัวแทน ไม่สามารถดำเนินธุรกิจโดยตรงได้ (ห้ามซื้อขายสินค้า)

  • เหมาะกับบริษัทไทยที่ต้องการสำรวจตลาดหรือติดต่อคู่ค้า

  • ทำหน้าที่ได้แค่ประชาสัมพันธ์ วิจัยตลาด หรือติดต่อประสานงาน


3. เอกสารที่คนไทยต้องเตรียมเมื่อจะเปิดบริษัทในจีน

การจดทะเบียนบริษัทในจีนต้องยื่นเอกสารต่อ กระทรวงพาณิชย์ (MOFCOM) และ สำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์ (AMR)
เอกสารหลักได้แก่:

  1. หนังสือเดินทางของผู้ถือหุ้นและกรรมการ

  2. แผนธุรกิจ (Business Plan)

  3. หนังสือรับรองนิติบุคคล (หากเป็นบริษัทไทยไปลงทุน)

  4. ที่อยู่สำนักงานในจีน (สัญญาเช่าสำนักงาน)

  5. รายละเอียดทุนจดทะเบียน

  6. แบบคำขออนุญาตประกอบธุรกิจ

ระยะเวลาดำเนินการ: ประมาณ 30–60 วัน (ขึ้นอยู่กับมณฑล)


4. ระบบภาษีและการเงินในจีน

จีนมีระบบภาษีที่ค่อนข้างเข้มงวดและแตกต่างจากไทย

  • ภาษีนิติบุคคล (Corporate Tax): 25%

  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): 13% สำหรับสินค้าทั่วไป

  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax): 10% สำหรับการโอนกำไรกลับต่างประเทศ

แนะนำให้จ้างบริษัทบัญชีท้องถิ่นจีนช่วยจัดทำบัญชีและยื่นภาษีอย่างถูกต้อง


5. การจ้างแรงงานในจีน

  • นายจ้างต่างชาติสามารถจ้างคนจีนได้โดยต้องทำ สัญญาจ้างแรงงาน (Employment Contract) เป็นลายลักษณ์อักษร

  • ต้องจดทะเบียน ประกันสังคมจีน (Social Insurance) และ กองทุนที่อยู่อาศัย (Housing Fund) ให้พนักงาน

  • หากจ้างแรงงานต่างชาติ ต้องขอ ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และ วีซ่าทำงาน (Z Visa)

การละเมิดกฎหมายแรงงานในจีนอาจถูกปรับหรือเพิกถอนใบอนุญาตดำเนินธุรกิจได้


6. เข้าใจวัฒนธรรมธุรกิจจีน

  • ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ (Guanxi) มากกว่าสัญญา

  • เคารพลำดับชั้นและอาวุโส ในการเจรจาธุรกิจ

  • ไม่ควรเร่งรัดหรือพูดตรงเกินไป เพราะอาจถูกมองว่าเสียมารยาท

  • การสร้างความไว้วางใจระยะยาว สำคัญกว่ากำไรในระยะสั้น


7. ช่องทางการตลาดที่คนไทยควรรู้

  • WeChat Official Account: สำหรับสื่อสารกับลูกค้าชาวจีน

  • Douyin (TikTok จีน): เหมาะสำหรับขายสินค้า B2C

  • Tmall / JD.com / Xiaohongshu: แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยม

  • KOL / Influencer จีน: มีอิทธิพลสูงในการตัดสินใจซื้อสินค้า

กลยุทธ์สำคัญคือ“Localization”— ปรับสินค้าและการสื่อสารให้ตรงใจผู้บริโภคจีน


8. ข้อควรระวังก่อนเริ่มธุรกิจในจีน

  1. ตรวจสอบกฎหมายท้องถิ่นของแต่ละมณฑล (อาจไม่เหมือนกันทุกที่)

  2. ห้ามใช้ชื่อบริษัทซ้ำกับบริษัทที่มีอยู่แล้ว

  3. หลีกเลี่ยงการทำธุรกิจ“นอมินี”(ถือหุ้นแทน) ซึ่งผิดกฎหมายจีน

  4. ต้องขออนุญาตก่อนทำธุรกิจบางประเภท เช่น การศึกษา การเงิน และสื่อ


📍สรุป: ก้าวแรกในจีนคือ“การเตรียมตัวอย่างเข้าใจ”

การเข้าสู่ตลาดจีนไม่ใช่เรื่องยาก หากเตรียมพร้อมในด้านข้อมูล กฎหมาย และเครือข่าย
สิ่งสำคัญที่สุดคือ“เข้าใจระบบจีนและเคารพวิธีคิดของคนจีน”
เมื่อคุณสร้างความสัมพันธ์และวางระบบธุรกิจถูกต้องตั้งแต่ต้น“ตลาดจีน”จะกลายเป็นประตูแห่งโอกาสใหม่ที่มั่นคงสำหรับคนไทยในอนาคต


คำแนะนำเพิ่มเติม:
ก่อนเริ่มลงทุน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจีน (China Business Consultant) หรือสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (DITP) เพื่อขอคำแนะนำเรื่องเอกสารและข้อกำหนดเฉพาะของแต่ละเมือง


Facebook-Management YouTube Facebook-Consultant Facebook-Recruitment
ประกาศ

1. สถานีนี้ปฏิบัติตามมาตรฐานในวงการ และทุกบทความที่ถูกคัดลอกจะถูกทำเครื่องหมายชัดเจนว่าเป็นของผู้เขียนและแหล่งที่มา; 2. บทความต้นฉบับของสถานีนี้ โปรดระบุผู้เขียนและแหล่งที่มาเมื่อมีการคัดลอก เราจะดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่ไม่เคารพสิทธิของผู้เขียน; 3. การส่งบทความของผู้เขียนอาจถูกดำเนินการแก้ไขหรือเพิ่มเติมโดยบรรณาธิการของเราในบางกรณีที่เหมาะสม

แสดงความคิดเห็น
ค้นหา
อันดับความนิยม
เผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้
รายการแท็ก
    ติดตามเรา

    สแกนเพิ่มเราเป็นเพื่อน เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม